Kahuna

อาชีพ Kahuna หรือที่เรียกชื่อย่อติดปากกั ว่า “ฮูน่า” นั้น หลายๆ คนคงเห็นความจำเป็นของอาชีพนี้กันแล้ว ถ้าลุยเป็นปาร์ตี้จะเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่จำเป็น ไม่น้อยหน้าอาชีพสาย Cleric เลย อีกทั้งยังลุยเดี่ยวได้มีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่เนื่องจากเป็นสายกึ่งๆ ระหว่างโจมตีด้วยอาวุธ, โจมตีด้วยเวทมนตร์ และสนับสนุน อาจจะดูน่าสับสน

ข้อมูลทั่วไป
สายอาชีพ (เผ่าพันธุ์) : Magician (Gaia)

อาวุธที่เหมาะสม : 2H Axe หรือ 2H Staff

ชุดป้องกันที่ใช้ได้ : Magician Armor

ภูตที่เหมาะสม : เกือบทุกชนิด แนะนำพวกอึดๆ แบบ Orc, Yeti หรือ Hawkmanประเภท

Soul Stone ที่แนะนำ : STR – VIT หรือ INT – VIT

ข้อควรรู้ของ Kahuna
เป็นอาชีพที่อยู่ตรงกลางระหว่างสาย Cleric (Deva) และสาย Dark Magician (Azura) ซึ่ง Kahana (Gaia) ก็เหมือนเป็นสายนักรบเวทมนตร์ที่ใช้ได้ทั้งเวทมนตร์โจมตี และสนับสนุน แล้วยังชำนาญอาวุธประเภทขวานใหญ่ที่ถือทั้งสองมือที่สู้ในระยะประชิดอีกทั้งมีสกิลของอาวุธเพื่อใช้ต่อสู้

ถึงแม้จะมีเวทมนตร์โจมตี แต่ส่วนใหญ่ก็ Cool Time ยาวนาน ไม่สามารถยิงต่อเนื่องได้แบบ Dark Magician แนะนำให้ใช้ขวานใหญ่เป็นหลัก โดยใช้สกิลเวทมนตร์บางอย่างสร้างความเสียหายจากระยะไกลก็พอ

จุดอ่อนอีกอย่าง คือ เรื่องชุดป้องกันมีพลังป้องกันน้อย ช่วงแรกเราอาจรับความเสียหายแทนภูตได้แบบพอทน เพราะมีสกิลฟื้นพลังที่พอใช้งานได้ดีแต่เริ่มเกม แต่ในช่วงหลังศัตรูจะอัดหนักมาก ถ้าภูตมี P.DEF สูงกว่าเรา (โดยเฉพาะช่วงเกราะเลเวล 50 ขึ้นไป) แนะนำให้ภูตเป็นตัวชนมอนสเตอร์แล้วช่วยโจมตีซ้ำจะดีกว่า

ถึงตอนเก็บเลเวล เราจะใช้อาวุธระยะประชิดเป็นหลักได้ แต่เมื่อ PVP สกิลโจมตีระยะไกล และพลังโจมตีเวทมนตร์จะมีประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะสกิลตรึงศัตรูแล้วเล่นงานด้วยภูต หรือสกิลต่อเนื่อง ถึงช่วงที่ PVP บ่อยๆ อาจต้องให้ความสนใจกับสกิลโจมตีให้มากสักหน่อย

มีสกิลฟื้น HP ต่อเนื่อง ช่วยให้เล่นง่ายขึ้นมาก

สกิลที่จำเป็นของ Kahuna

Job Level 1 : เป็นสกิล Passive ทั่วไป อัพสลับกับสกิลอื่นตามความเหมาะสม อาจอัพค้างไว้อย่างละ 1 เลเวลก่อนก็ได้

Job Level 5 : ช่วงนี้จะได้สกิลเด่นของ Kahuna มา คือ สกิลประเภท Enchant Weapon 4 แบบ ในเบื้องต้น อัพ 1 เลเวลไปทั้ง 4 แบบ แต่เลือกใช้ได้แค่แบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น สักประมาณเลเวล 30 – 35 ค่อยเพิ่มสกิลนี้ให้สูงยิ่งขึ้นอีกหน่อย

สกิลหากินในช่วงนี้ แนะนำให้ใช้ Enchant Weapon : Wind เพราะถึงจะมีโอกาสสตั๊นเพียง 10% แต่ก็มีโอกาสทำให้ศัตรูหยุดนิ่ง 2 – 3 วินาที เปิดโอกาสให้โจมตีฟรี และลดภาระการใช้สกิลฟื้นพลังได้มากแต่กรณีที่เรามีไอเทมหรือภูตที่แข็งแกร่งพอ อาจใช้ Enchant Weapon : Fire เพื่อเน้นพลังทำลายแทน

Job Level 10 : มีสกิลเด่น คือ Restoring Purified Water ที่ใช้ฟื้นพลังต่อเนื่องให้กับเป้าหมาย อาจอัพไว้สัก 2 – 3 เลเวล เพื่อให้เก็บเลเวลได้สบายขึ้น ส่วนสกิลโจมตีก็อัพไว้สักเพียง 1 เลเวลก่อน ยังไม่จำเป็นมาก

Job Level 15 : มีสกิลใหม่ 2 สกิล แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังนัก อัพเป็นทางผ่านก็พอ ส่วนสกิลเพิ่มโอกาส Critical ก็อัพเกรดอีกสัก 1 - 2 เลเวล เพื่อใช้ในบางโอกาสก็ดี

Job Level 20 : จะมีบัฟใหม่เข้ามา คือ Speed of Wind อัพไว้ 1 ก็พอ เพราะแต่ละขั้นจะเพิ่มความเร็วเพียง 1 หน่วยเท่านั้น ใช้บัฟเรากับภูตจะช่วยให้วิ่งเร็วกว่าอาชีพอื่นๆ ในช่วงเลเวลเท่ากัน ส่วน Two-Handed Axe Training มีผลเพิ่มความเร็วการฟันเล็กน้อย แต่ยังไม่เห็นผลในช่วงแรก และไม่เพิ่มพลังโจมตี อัพเป็นทางผ่านไปก่อน สกิลใหม่อีกสกิลก็ใช้ในการหลบหนีมากกว่า อัพไว้แค่ 1 ก่อน แต่จะมีประโยชน์ในช่วงหลัง

Job Level 25 : มีสกิลบัฟเด่นถึงสองอย่าง คือ Force of Sacred Fire (เพิ่ม P.Atk) และ Rock Energy (เพิ่ม P.Def) จำเป็นต้องมี อาจอัพไว้สัก 1 – 3 เลเวลก่อน จะช่วยให้เก็บเลเวลได้สบายขึ้น เพราะไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ได้ผลสกิล แต่ใช้ให้ภูตได้ด้วยเช่นกัน กรณีถ้าต้องการเก็บเลเวลแบบปาร์ตี้ในดันเจี้ยนในช่วงนี้อาจอัพยาวๆ จนถึง 4 – 5 เลเวลเลยก็ได้

Job Level 30 : Support of Gust อีกสกิลที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง อัพไว้ 1 เลเวลก่อน เพราะผลสกิลสั้นมากแถมระยะเวลาใช้สกิลใหม่ก็นานพอสมควร อีกสกิล Crystallizing Water Spheres ที่ทำให้มีโอกาสสตั๊นถึงจะใช้ได้ไม่ต่อเนื่อง ก็ยังพอน่าใช้งานช่วงนี้อยู่บ้าง

Job Level 35 : บัฟใหม่อีกสกิล คือ Fireshield ใช้สะท้อนความเสียหาย พอใช้งานได้นิดหน่อย แต่ไม่เห็นผลนัก อัพแค่ 1 สกิลก็พอ มีสกิลโจมตีด้วยอาวุธอีกสกิล คือ Blasting Rock Cut ที่ทรงพลังแล้วยังมีโอกาสทำให้สตั๊นถึงจะใช้งานได้ดีแต่ Cool Time นานถึงนาทีครึ่ง สกิลที่สาม คือ Huge Rock Fall ถือว่าแรงพอตัว น่าใช้งานดีเช่นกัน

Job Level 40 : มีสกิล Recklessness 4 สกิล ที่เป็นสกิลเด็ดสำหรับปะทะศัตรูโหดๆ อย่างพวกหัวหน้ามอนสเตอร์ที่ต้องสู้เพื่อทำเควสต์ เป็นต้น รวมทั้งการ PVP ถ้าใช้พร้อมกันหมดก็จะเป็นยอดมนุษย์ได้ในช่วงระยะเวลา 15 – 18 วินาที แต่ Cool Time เป็น 10 นาที จึงอัพไว้แค่ 1 เลเวลก่อน
โดยรวมก็อัพเป็นทางผ่านอย่างละ 1 เลเวล แล้วรีบอัพ Job Level ให้ถึง 50 แล้วค่อยเปลี่ยนอาชีพขั้นสอง เพื่อเอาโบนัสของสเตตัส ระหว่างนั้น ก็อาจย้อนไปอัพบางสกิลบ้างเพื่อให้สกิลแรงขึ้น อย่าลืมว่าสกิลส่วนใหญ่ Cool Time นาน ทำให้ต้องใช้หลายๆ สกิลผสมผสานกับการโจมตีปกติด้วย

สกิลคลาส 2 ที่เหมือนกัน
บัฟทั้งหมดของ Kahuna จะยังมีให้อัพต่อในอาชีพขั้นสอง ไม่ว่าจะเลือกสายไหน รวมถึงสกิล Enchant ก็จะสามารถอัพต่อยาวๆ ได้ เพียงแต่ Druid จะมีสกิลใหม่ให้เลือกใช้มากกว่า ในขณะที่ Battle Kahuna จะเน้นบทบาทของการต่อสู้ และใช้สกิลเก่าเป็นหลัก

กรอบสีเหลือง คือ สกิลใหม่ของ Battle Kahuna และ Druid ตามลำดับ

จุดเด่นของ Battle Kahuna
สายนี้ยังคงจุดเด่นของ Kahuna ไว้ทุกสกิล ทำให้อัพสกิลเดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ โดยอัพจากสกิลเลเวล 10 ต่อได้จนถึงสกิลเลเวล 20 แล้วเพิ่มสกิลใหม่เข้าไปอีก 5 สกิลซึ่งเป็นสกิลสำหรับต่อสู้ด้วยอาวุธและสกิลเวทมตร์ที่มีพลังทำลายที่สูงมากยิ่งขึ้น บวกกับสกิลเก่าแล้วทำให้ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถึงสกิลสนับสนุนจะยังด้อยกว่า Druid แต่สกิลโดยรวมก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทำให้ยังพอเป็นที่ต้องการในปาร์ตี้อยู่บ้าง อีกทั้งยังสามารถเก็บเลเวลคนเดียวได้ค่อนข้างง่ายกว่า Druid ใครชอบแบบบู๊ผสมเวทมนตร์น่าจะเหมาะกับสายนี้

Rain of Spirits สกิลสนับสนุนที่ดีของ Battle Kahuna

จุดเด่นของ Druid
ต่างจาก Battle Kahuna นอกจากสกิลสนับสนุนของเก่าแล้ว จะเน้นที่สกิลใหม่เพิ่มขึ้นมาจำนวน 13 สกิลแทน โดยเพิ่มสกิลโจมตีเป็นกลุ่มใหญ่ และสกิลสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพเข้ามา เหมาะกับการใช้อาวุธประเภท Staff และสู้ระยะไกลยิ่งขึ้น
แต่ถึงสกิลจะเพิ่มขึ้น ก็ยังคงไม่สามารถเล่นแบบสาย Dark Magician ที่ยิงเวทมนตร์ได้ต่อเนื่อง เพราะสกิลส่วนใหญ่ยังคงมี Cool Time นาน การจะลุยเดี่ยวเป็นเรื่องลำบากกว่า Battle Kahuna แต่ก็พอเล่นได้อยู่บ้าง ทางที่ดี แนะนำให้เน้นเล่นแบบปาร์ตี้ที่รับบทบาทเป็นตัวสนับสนุน และช่วยโจมตีด้วยจะดีกว่า
สกิลโจมตีบางอย่างของคลาส 1 ถึงจะอัพเลเวลไม่ได้แล้ว แต่ยังคงนำมาใช้งานได้ในบางกรณี เช่น พวกสกิล Reckless หรือสกิลโจมตีช่วงหลังที่พอใช้งานได้ในบางโอกาส


โดยรวมก็ถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจอาชีพหนึ่งครับ จะว่าคล้ายพวกนักรบเวทมนตร์ก็คงได้ เพียงแต่พลังป้องกันน้อยไปสักหน่อย อาจสดกับมอนสเตอร์เลเวลสูงไม่ได้ตามที่คิดนัก ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกมองข้าม โดยเฉพาะปาร์ตี้ใหญ่ๆ ยังไงก็ต้องมีสาย Kahuna กับสาย Cleric ไปด้วยกัน ไม่งั้นจะเล่นลำบากครับ